ศึกษาทำความเข้าใจเพิ่มเติมจาก
สุเทพ อ่วมเจริญ การพัฒนาหลักสูตร : ทฤษฎีและการปฏิบัติ “การพัฒนาหลักสูตร : การออกแบบ”
การออกแบบหลักสูตร
การออกแบบหลักสูตร (Curriculum
Design) ตามขั้นตอนของ SU Model เป็นสามเหลี่ยมรูปที่สอง
ซึ่งจะนำจุดมุ่งหมายของหลักสูตรมาจัดทำกรอบการปฏิบัติ
หลักสูตรที่จัดทำขึ้นเพื่อมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ได้รับการพัฒนาตามกระบวนการของหลักสูตร
สอดคล้องกับคำถามข้อที่ 2 ของไทเลอร์ ที่ถามว่า
มีประสบการณ์การศึกษาอะไรบ้างที่โรงเรียนควรจัด
เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายในการศึกษา ซึ่ง ปฏิบัติการ : การออกแบบหลักสูตร นี้
ได้ศึกษาเอกสารและมีองค์ความรู้ต่าง ๆ ดังนี้
1. โมเดลต้นแบบเชิงวัตถุประสงค์ (Objective Model)
Tyler
ได้พัฒนาโมเดลต้นแบบเชิงวัตถุประสงค์ หรือ
แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ ถือว่าเป็นต้นแบบของการพัฒนาหลักสูตร
จากหนังสือ Basic Principles of Curriculum and Instruction ของ
Ralph W. Tyler (1949)
ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรและการวางแผนการสอน โดยตั้งคำถามพื้นฐานไว้
4 ข้อ ได้แก่
1.มีจุดมุ่งหมายทางการศึกษาอะไรบ้างที่โรงเรียนต้องแสวงหา
(What educational purposes should
the school seek to attain?) ได้กล่าวถึง
การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นของผู้เรียน ปรัชญาการศึกษา จิตวิทยาการเรียนรู้
ที่โรงเรียนต้องนำมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดจุดมุ่งหมายทางการศึกษา
2. มีประสบการณ์ทางการศึกษาอะไรบ้างที่โรงเรียนควรจัดขึ้นเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ (What educational experiences can be provided that are likely to
attain these purposes?) ได้นิยามความหมายของ ประสบการณ์การเรียนรู้
(learning experiences) หมายถึง
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับสภาวะแวดล้อมภายนอก การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการพฤติกรรมเชิงรุกของนักเรียน
และยังได้กล่าวถึงหลักการในการเลือกประสบการณ์การเรียนรู้
3. จะจัดประสบการณ์ทางการศึกษาอย่างไร จึงจะทำให้การสอนมีประสิทธิภาพ
(How can these educational experiences be effectively organized?) การจัดการการสอนที่มีประสิทธิภาพ มีเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้
ความต่อเนื่อง (continuity) การเรียงลำดับ (sequence)
การบูรณาการหรือการเชื่อมโยง (integration
4.
จะประเมินประสิทธิผลของประสบการณ์ในการเรียนอย่างไร (How can we determine whether
these purposes are being attained?) การประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนเพื่อให้ทราบว่านักเรียนเกิดการเรียนรู้และมีพัฒนาการตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่หรือไม่
ซึ่งคำถาม 4 ข้อนี้
เป็นคำถามที่จะนำไปสู่ ขั้นตอนในการออกแบบ คือ 1) การกำหนดจุดมุ่งหมาย
2) การออกแบบประสบการณ์ทางการศึกษา 3) การจัดประสบการณ์ทางการศึกษา
4) การประเมินประสิทธิผล
2. การปรับปรุงโมเดลโดยฮิลดา ทาบา
ต่อมาในปี 1962 Taba ได้เสนอลำดับขั้นตอนของกระบวนการพัฒนาหลักสูตรเพื่อปรับปรุงโมเดลให้มีความชัดเจนขึ้น
โดยแบ่งออกเป็น 7 ขั้น ได้แก่
3.
รูปแบบการออกแบบหลักสูตรที่เน้นเนื้อหาวิชา เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
และเน้นปัญหาสังคมเป็นสำคัญ
3.1 รูปแบบการออกแบบหลักสูตรที่เน้นเนื้อหาวิชา
Ellis
(2004: 91-96) กล่าวว่า
หลักสูตรที่เน้นเนื้อหาวิชาเกี่ยวข้องกับความรู้และทักษะของการศึกษาทางด้านศิลปศาสตร์
ซึ่งหมายถึงการศึกษาทางวิชาการ (academic education) ไม่ใช่ทางอาชีวศึกษา
เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาและเหตุผล
สร้างคนให้มีความรู้เพื่อเตรียมตัวเป็นผู้ที่มีความสามารถในการทำงานให้สังคมประชาธิปไตย
ปรัชญาการศึกษาที่เป็นพื้นฐานของหลักสูตรที่เน้นเนื้อหาวิชา คือ
ปรัชญาการศึกษาสารัตถนิยม (Essentialism) ซึ่งมีแนวคิดว่า ความรู้ ความจริง
และวัฒนธรรมของได้รับการเลือกสรรแล้วอย่างเหมาะสม
หลักสูตรจะยึดเนื้อหาวิชาเป็นสำคัญ และปรัชญาการศึกษานิรันตรนิยม (Perennialism)
ที่มีแนวคิดว่า เน้นการพัฒนาทางด้านสติปัญญาและการใช้เหตุผล
เนื้อหาสาระของสิ่งที่เรียน
หลักสูตรใช้เนื้อหาวิชาเป็นสิ่งนำทางไปสู่ความสำเร็จทางปัญญา
การเรียนการสอนเน้นที่จะสร้างคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์
การออกแบบหลักสูตรที่เน้นเนื้อหาวิชาเน้นสอนให้ผู้เรียนเป็นคนเก่ง
3.2 รูปแบบการออกแบบหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
หลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญให้ความสำคัญต่อพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละบุคคลมากกว่าเนื้อหาสาระวิชา
ดังนั้นหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญจึงไม่ใชหลักสูตรรายวิชาคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ ฯลฯ แต่เป็นหลักสูตรแห่งความสนใจและประสบการณ์ (Ellis, 2004: 43) นอกจากนั้นแล้ว Ellis ยังกล่าวว่า
การเรียนรู้อย่างมีความหมายของการจัดหลักสูตรแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
เกิดจากการที่นักเรียนค้นพบตนเองที่ไม่ใช่เป็นการค้นพบจากความรู้ภายนอก
แต่เกิดจากค้นพบตนเองซึ่งเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องเพื่อค้นหาว่าตนเองเป็นใครและต้องการเป็นอะไรในอนาคต
ปรัชญาการศึกษาที่เป็นพื้นฐานของหลักสูตรที่เน้นผู้เรียน คือ
ปรัชญาการศึกษาอัตถิภาวะนิยม (Existentialism) มุ่งเน้นการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้จักตนเอง
โดยให้เรียนรู้จากประสบการณ์ในชีวิตจริง เป็นประสบการณ์ที่สัมพันธ์กับสังคม
การออกแบบหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเน้นให้ผู้เรียนเป็นคนดี
3.3 รูปแบบการออกแบบหลักสูตรที่เน้นปัญหาสังคมเป็นสำคัญ
หลักสูตรที่เน้นปัญหาสังคมเป็นสำคัญ
เป็นการออกแบบที่เน้นปัญหาทางสังคมเป็นสาระ ไม่ใช่มองที่เนื้อหา วิชาเป็นสาระ
ปัญหาสังคม ได้แก่ ปัญหาด้านการดำรงชีวิต ปัญหาชีวิต ปัญหาของชุมชน
ปัญหาที่เป็นจริงในสังคมโลก ดังนั้น
ถ้าโรงเรียนต้องการจัดหลักสูตรที่เน้นปัญหาสังคมเป็นสำคัญ
โรงเรียนต้องจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้นักเรียนได้พบกับปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นจริง
ๆ ในโลกใบนี้ ไม่ใช่ประเด็นปัญหาสมมติจากแบบเรียน การจัดหลักสูตรให้ดำเนินการเป็นการศึกษาสังคม
(Social education) เน้นกระบวนการกลุ่มในการแก้ปัญหา
การทำงานร่วมกัน การสร้างทีม การเรียนรู้แบบร่วมมือกัน
ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นของการศึกษาในโรงเรียน (Ellis, 2004:
71-74) และ Ellis เห็นว่า นักเรียนเป็นผู้มีความสามารถและพร้อมที่จะปฏิรูปสังคม
สะท้อนแนวคิดว่าหลักสูตรไม่ได้อยู่ในกำแพงอีกต่อไปแล้ว ต้องออกมาสู่ชุมชนสังคม
ที่ซึ่งนักเรียนและครูสามารถที่จะเปลี่ยนโลกได้
ปรัชญาการศึกษาที่เป็นพื้นฐานของหลักสูตรที่เน้นปัญหาสังคมเป็นสำคัญ
ได้แก่ ปรัชญาการศึกษาปฏิรูปนิยม (Reconstructionism)
มีแนวคิดว่า
การเรียนรู้เป็นการนำความรู้ไปพัฒนาสังคมให้สังคมเป็นสังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
การศึกษาจึงเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปรับปรุงสภาพสังคม
หรือเป็นเครื่องมือของมนุษย์ในการปฏิรูปสังคม ดังนั้น
หลักสูตรที่เน้นปัญหาสังคมเป็นสำคัญมุ่งหวังให้สังคมเป็นสุข
4. หลักการออกแบบหลักสูตร 7 ประการของสก๊อตแลนด์
การออกแบบหลักสูตร 7 ประการของสก๊อตแลนด์ มีหลักการดังต่อไปนี้
การออกแบบหลักสูตรต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งในระดับการจัดการและระดับชั้นเรียน
กล่าวคือ การนำหลักสูตรไปใช้ต้องมีความต่อเนื่องในการตรวจสอบทบทวน
การประเมินและปรับปรุงแก้ไข
และในการนำไปใช้ต้องคำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียนและพัฒนาการของแต่ละคนด้วย
โดยมีหลักการพื้นฐาน 7 ประการ คือ
5. แนวคิดการออกแบบหลักสูตร
ที่ส่งเสริมความเป็นเลิศในการเรียนรู้และการสอน ของมหาวิทยาลัยกริฟฟิธ
มหาวิทยาลัยกริฟฟิธ
ได้เสนอหลักการที่ส่งเสริมความเป็นเลิศในการเรียนและการสอนไว้ว่า
สถาบันการศึกษาควรจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ให้สัมพันธ์กับกิจกรรมการสอน จะสะท้อนผลการเรียนรู้ในเชิงบวก
ส่งผลต่อทักษะ ความรู้ เจตคติและพฤติกรรมของผู้เรียน แนวคิดนี้ประกอบด้วยหลักการ 7
ประการ ได้แก่
1. สร้างสรรค์ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วม
มีแรงจูใจและมีแรงกระตุ้นปัญญา
2. ส่งเสริมสนับสนุนให้รู้จักการสืบเสาะค้นหา การตั้งคำถามอย่างมีวิจารณญาณ
และการมีความคิดสร้างสรรค์ บนพื้นฐานของผลการวิจัย
3. เน้นความสำคัญ ความเกี่ยวโยง
และการบูรณาการทฤษฎีและองค์ความรู้เพื่อพัฒนาไปสู่การแก้ปัญหาที่นำไปใช้ได้จริง
4. ส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ที่พัฒนาความสามารถระหว่างวัฒนธรรมที่ผู้เรียนมีความแตกต่างกัน
5.
คุณค่าและความทรงจำของแต่ละบุคคลและวัฒนธรรมที่หลาหลาย
นำมาเป็นมาตรการในบริบทของการสนับสนุนและเกี่ยวข้องกับผู้เรียน
6. การเพิ่มการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ที่มีผลต่อประสิทธิผลของหลักสูตร
การสอนและกลยุทธของการประเมิน
7.
การปรับปรุงการสอนอย่างต่อเนื่องเป็นการพัฒนาวิชาชีพ
6. การออกแบบหลักสูตรรายวิชา
ตามแนวคิดของเวสมินส์เตอร์ เอ็กแชงจ์ มหาวิทยาลัยเวสมินส์เตอร์
เวสมินส์เตอร์ เอ็กแชงจ์ มหาวิทยาลัยเวสมินส์เตอร์
ได้เสนอแนะการออกแบบหลักสูตรรายวิชา (Course design)
ในลักษณะของคำถามเพื่อให้นักพัฒนาใช้เป็นแนวทางในการออกแบบหลักสูตรรายวิชา
ดังนี้
1.ผู้ออกแบบคาดหวังว่าอะไรที่ช่วยให้หลักสูตรนี้ประสบความสำเร็จ
2.สถาบันการศึกษาหรือสิ่งแวดล้อมภายนอกอะไรบ้างที่มีอิทธิพลต่อหลักสูตรรายวิชา
3.การประกันคุณภาพมีความสัมพันธ์กับหลักสูตรอย่างไร
4.อะไรเป็นแบบจำลองที่ตรงกับความประสงค์ในการออกแบบหลักสูตร
5.อะไรเป็นจุดหมายและผลการเรียนรู้ของหลักสูตร
6.การประเมินผลการเรียนรู้ที่คาดหวังอย่างไร
7.อะไรเป็นกลยุทธในการเรียนรู้ การสอน และการประเมิน
8.จะต้องปรับพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะเรียนรายวิชาหรือไม่
9.จะส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างไร
การวางแผนพัฒนาผู้เรียนในการเรียนรู้ตามหลักสูตรอย่างไร
10.หลักสูตรจะพัฒนาผู้เรียนที่มีความหลากหลายหรือไม่
7. การออกแบบหลักสูตรด้วยแนวคิดวัตถุประสงค์เป็นฐาน
ข้อดี (Advantages) และข้อจำกัด
(Disadvantages) ในการออกแบบหลักสูตรด้วยแนวคิดวัตถุประสงค์เป็นฐาน
ข้อดี
(Advantages)
|
ข้อจำกัด
(Disadvantages)
|
1. วัตถุประสงค์ที่ดี
และมีรายละเอียดของผลการเรียนรู้หรือ
การพรรณนาความสามารถ
ช่วยให้ผู้สอนและผู้เรียนเห็นภาพพฤติกรรม
ที่คาดหวังไว้อย่างชัดเจนเมื่อสอนหรือเรียนจบรายวิชาซึ่งจะสามารถช่วยใน
การจัดทิศทางและเกิดเสถียรภาพในรายวิชา
|
1.
วัตถุประสงค์เป็นผลสุดท้ายของการพิจารณาคุณค่าบางส่วนของผู้เรียนคนใดคนหนึ่ง
|
2. วัตถุประสงค์มิได้จำกัดอยู่เฉพาะประเด็นด้านวิชาการในรายวิชาใดรายวิชาหนึ่งแต่ใช้กลยุทธ์วัตถุประสงค์เป็นฐานในการวางแผน
และการปฏิบัติงาน
|
2. การสอนและการเรียนรู้อาจถูกกำหนดมากเกินไป
จนทำให้ความคิดริเริ่มเกิดการชะงัก
|
3.
ผลการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องชัดเจนช่วยในการปรับวิธีสอนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ซึ่งวัตถุประสงค์ต้องไม่จำกัดให้อยู่เพียงในกรอบที่จัดไว้
อาจใช้หลากหลายทางเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมาย
|
3. ผลการเรียนรู้และการพรรณนาความสามารถยาก
และใช้เวลาในการสร้าง
|
4. ผู้สอนซึ่งเป็นผู้กำหนดวัตถุประสงค์เป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการประเมิน
เพราะผู้สอนทราบดีว่าควรประเมินด้วยวิธีใด
อย่างไร
|
4. ควรทบทวนวัตถุประสงค์และผลการเรียนรู้บ่อย ๆ
ไม่ใช่พิจารณาเมื่อใกล้จะประสบผลสำเร็จในรายวิชา
|
เอกสารอ้างอิง
สุเทพ อ่วมเจริญ. (2557). การพัฒนาหลักสูตร: ทฤษฎีและการปฏิบัติ
(พิมพ์ครั้งที่ 6). นครปฐม:
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร
วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น